ยายช็อก หลานเล่าให้ฟัง ทะเลาะเพื่อน ทำร้ายจนเสียชีวิต คิดว่าพูดเล่น ก่อนมารู้ข่าวเป็น 1 ใน 3 ผู้ต้องหาฆ่าฝังดิน ปมเบี้ยวค่ายาบ้าอีก 1,300 บาท
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งพบศพชายถูกฆ่าฝังดินอยู่บริเวณกลางทุ่งนาบ้านหนองยาว ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ โดยชาวบ้านพบเท้าของผู้ตายสวมรองเท้าสีแดงโผล่ขึ้นมาจากหลุมที่ฝัง ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายวิราช อายุ 39 ปี พนักงานโรงงานซองเอกสาร ซองใส่เอกสารชาวบ้านบ้านหนองปรือพัฒนา หมู่ 16 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา
จากการสอบถามญาติผู้ตายทราบว่า ผู้ตายได้หายออกจากบ้านไปประมาณ 3 วันแล้ว โดยก่อนหายตัวผู้ตายได้บอกที่บ้านว่าจะออกไปยิงหนูนา จากนั้นก็หายตัวไป และมาพบเป็นศพถูกฝังดินอยู่กลางทุ่งนา
ล่าสุด วันนี้ (13 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้แล้ว เป็นชาย 3 ราย ประกอบด้วย นายสุเทพ หรือ เทพ อายุ 25 ปี, นายธีรภัทร หรือ นนท์ อายุ 22 ปี และนายเอ (นามสมติ) เยาวชนอายุ 15 ปี โดยคนร้ายทั้ง 3 ราย ซึ่งทั้งหมดสารภาพว่ามูลเหตุเกิดจากความไม่พอใจที่ผู้ตายเบี้ยวเงินค่าซื้อยาบ้า
โดยเมื่อคืนวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่กระท่อมดังกล่าว แล้วเรียกชื่อเจ้าของนา แต่ปรากฏว่าพบกับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ จึงได้มีการทวงเงินค่าไปซื้อยาบ้า จำนวน 1,700 บาท แต่ผู้ตายซื้อมาให้แค่ 400 บาท จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกัน
และผู้ตายได้ดึงมีดกับนายธีรภัทร เพื่อที่จะมาทำร้าย แต่เพื่อนอีก 2 คนที่อยู่ด้วยกันเห็นเข้า จึงได้รุมทำร้าย โดยนายสุเทพได้ใช้ด้ามหน้าไม้ทุบตี และใช้อาวุธปืนปากกาที่พกมาด้วย ยิงนายวิราชที่ศีรษะ และลำตัว รวม 3 นัด ก่อนที่นายธีรภัทรจะใช้มีดจ้วงแทงซ้ำอีก 8 แผล จนทำให้นายวิราชเสียชีวิต
ก่อนที่ทั้งสามคนจะช่วยกันลากศพไปฝังดินห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 100 เมตร แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ ติดตามไปจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 2 คน คือนายสุเทพ กับนายธีรภัทร
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กดดันอย่างหนัก จนกระทั่ง นายเอ (นามสมมติ) เยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งหนีไปอยู่บ้านญาติในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยอมให้ญาติติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่
ซึ่งเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาคือนายสุเทพฯ ไปค้นหาอาวุธปืนปากกา ในสระน้ำดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ลงทำการค้นหาอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถค้นหาปืนปากกาพบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำไปเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
โดยขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรและฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตายต่อไป
ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้ (13 ธ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่กำลังสอบปากคำผู้ต้องหา ได้มี นางบู่ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นยายของนายสุเทพ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยมหลานชายด้วยใบหน้าที่สลด
นางบู่ เล่าว่า นายสุเทพ หลานชายนั้น อาศัยอยู่บ้านคนเดียว และเป็นคนชอบดื่มสุราเป็นประจำ หลังเกิดเหตุตนเองไม่รู้อะไรเลย เพราะไปเลี้ยงควายอยู่กลางทุ่งนา นานๆ จะแวะมาเยี่ยมหลาน
ซึ่งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 ธ.ค.) ตนเองก็ยังแวะมากินข้าวพูดคุยกันตามปกติ โดยหลานชายก็พูดออกมาว่าไปทะเลาะกับเพื่อนมา จากปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ จึงได้ลงมือทำร้ายเพื่อนจนเสียชีวิต ซึ่งตนเองก็คิดว่าหลานคงพูดทีเล่นทีจริง แต่ไม่คิดว่าจะทำจริงๆ
มารู้อีกทีจากข่าวว่าหลานไปฆ่าคนตาย จึงรู้สึกตกใจมาก เพราะหลานชายกับผู้ตายก็รู้จักกันในฐานะเป็นญาติกัน ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ แต่เมื่อหลานก่อเหตุเช่นนี้แล้ว ตนเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ นอกจากต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายเท่านั้น