หนุ่มฆ่าแฟนสาวหมกผ้าห่ม ก่อนรมควันตายตามในรถเก๋ง ชาวบ้านขับผ่านพบกลิ่นเหม็นโชยออกจากรถ แจ้งเจ้าหน้าที่งัด เจอศพเน่าเสียชีวิต 4-5 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.40 น. ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนหน้าร้านขาย ฟอยล์อลูมิเนียม ฟอยล์ห่ออาหาร ย่านโพธาราม ซ.12 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ภายในรถมีการใช้ผ้าคลุมปิดบังไว้ในรถ นอกจากนี้ ตามช่องประตู มีการใช้สก็อตเทปติดตามช่อง ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำการงัดประตูรถที่ถูกล็อคไว้อยู่ประมาณ 20 นาที แต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงตัดสินใจทำการทุบกระจกรถด้านหลังเพื่อเปิดประตูในที่สุด
เมื่อทางเจ้าหน้าที่สามารถเปิดประตูรถได้ พบร่างชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายใน 1 ราย ทราบชื่อคือ นายวศุภัทร อายุ 35 ปี ชาว ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย โดยภายในรถมีผ้าห่ม และหมอนพร้อมชุดเครื่องนอนที่ผู้เสียชีวิตเอามาใส่ไว้ในรถเพื่อใช้นอน และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ทำการเปิดผ้าห่ม พบศพหญิงสาวเสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.เบญจพร อายุ 24 ปี ชาว ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถูกผ่าห่มและเครื่องนอนคลุมไว้
ตรวจสอบภายในรถยังพบกระป๋องทินเนอร์ วางอยู่บนที่นอนใกล้กับศพของฝ่ายชาย และพบหม้อหุงข้าวมีการใส่ถ่านไฟ และมีร่องรอยการจุดวางอยู่ที่บริเวณพักเท้าที่นั่งคนขับ จากการตรวจสอบตามร่างกายฝ่ายหญิง พบร่องรอยบาดแผลของการถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีด แทงเข้าที่บริเวณเกือบทั่วร่างกายทั้ง คอ,อก,ท้อง,สีข้างซ้าย และใต้ราวนม รวมประมาณเกือบ 10 แผล
นอกจากนี้ พบอาวุธมีดคัดเตอร์ และมีดพกเดินป่า ตกอยู่ในรถที่พบผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งคาดว่าฝ่ายชายที่เสียชีวิตน่าจะเป็นลงมือใช้อาวุธมีดดังกล่าวก่อเหตุฆ่าฝ่ายหญิง แล้วจึงฆ่าตัวตายตามในเวลาต่อมา
จากการสอบถามทางพยานโดยรอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ในหอพักใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยก่อนหน้านี้ได้มีคนที่พักอาศัยที่หอพักได้ขับรถผ่านรถยนต์ที่พบศพ แล้วได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากรถ จึงได้ไปแจ้งกับคนดูแลหอพัก และทราบว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวอาศัยอยู่ห้องพักชั้น 3 จึงได้ขึ้นไปเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
และตรวจสอบพบว่าประตูห้องไม่ได้ล็อกจึงเปิดเข้าไปดูก็พบว่ามีการเขียนข้อความติดกระจกในห้อง โดยมีใจความลักษณะเขียนทิ้งท้ายลาตายไว้ ทางคนดูแลหอพักจึงมาลองตรวจสอบที่รถคันดังกล่าวก็พบศพคนเสียชีวิตภายในรถ
จากการสอบถาม นางธันยารัตน์ อายุ 48 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิตฝ่ายชาย บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับ นายวศุภัทร น้องชายหลายวันแล้ว แต่โทรศัพท์ไปก็ไม่มีคนรับสาย และได้พยายามให้เพื่อนๆ ของน้องชายโทรหาก็พบว่าโทรติด แต่ไม่มีคนรับเช่นกัน จนกระทั่งมาทราบเรื่องในวันนี้
ที่ผ่านมานั้นตนพอทราบว่าน้องชายกับแฟนสาวนั้นมักมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง และทะเลาะกันแทบทุกวัน ซึ่งตนก็ทราบดีว่านิสัยของน้องชายนั้นเป็นคนขี้หึงหวง และพักหลังฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ทำงาน และตนก็มักจะได้ยินน้องชายบ่นให้ฟังอยู่เป็นประจำว่าเมื่อทะเลาะกับแฟนสาว แฟนสาวก็มักจะหนีกลับไปอยู่บ้านที่ฝาง แล้วน้องชายของตนก็จะไปตามกลับมา ประกอบกับฝ่ายหญิงนั้นก็เป็นคนหน้าตาดีมาก และคบกันมาได้ประมาณปีกว่า
ก่อนหน้านี้ตอนน้องชายยังไม่ได้คบกับแฟนสาวก็อาศัยอยู่กับตน จนกระทั่งมาคบกันก็ย้ายมาอยู่ห้อพักแห่งนี้ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ตนก็พบว่าน้องชายมักจะโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กของตัวเอง ลักษณะประมาณว่าจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง เมื่อช่วงประมาณต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเพื่อนๆ ของน้องชายคอยเตือนให้น้องชายนั้นเลิกกับแฟนคนนี้ เพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งมันก็เกิดขึ้นจริง
ภายหลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และการตรวจชันสูตรศพเบื้องต้นของแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบว่าการเสียชีวิตของทั้งคู่น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน จากการที่ทางญาติไม่สามารถติดต่อกับผู้เสียชีวิตได้
ต่อมา พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบการเสียชีวิตของฝ่ายชายในเบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุการตายนั้นมาจากการรมควัน
ส่วนฝ่ายหญิงพบว่ามีร่องรอยบาดแผลที่เกิดจากอาวุธมีด และจากการตรวจสอบห้องพักของผู้เสียชีวิตพบจดหมายที่ทางผู้เสียชีวิตเขียนทิ้งไว้ แต่ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้แต่อย่างใด โดยในส่วนของข้าวของเช่น ผ้าห่อ ผ้าปูที่นอน นั้นคาดว่าน่าจะขนมาจากบนห้องที่อาศัยอยู่
ซึ่งคาดว่าฝ่ายชายน่าจะลงมือก่อเหตุฆ่าฝ่ายหญิงก่อน จากนั้นก็ได้ฆ่าตัวตายตาม เนื่องจากภายในจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ก็มีเนื้อความสารภาพว่าก่อเหตุไปเพราะรัก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความหึงหวงกันระหว่างทั้งคู่ และได้จบชีวิตคู่ด้วยการที่ฝ่ายชายฆ่าฝ่ายหญิง แล้วตัวเองจึงรมควันตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายภายในรถ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ ดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อนำส่งไปยังแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อทำการตรวจชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะได้แจ้งประสานให้ทางญาติของผู้เสียชีวิตมารับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป